วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ถ่ายภาพบุคคลด้วยสมาร์ทโฟน

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                     
คุณต่อวงษ์ บอกว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีของสมาร์ทโฟนมาไกลมาก และเป็นอุปกรณ์ติดตัวที่บางครั้งตนได้นำมาใช้งานถ่ายภาพของตนเนื่องจากความสะดวก โดยเลือกใช้ iPhone X ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่มีเทคโนโลยีถ่ายภาพตอบสนองการใช้งานของตนเองมากที่สุด
เป็นที่รู้กันดีว่ากล้องของ iPhone เป็นคุณสมบัติที่ถูกใช้งานมากที่สุด โดย แอปเปิลเคยให้ตัวเลขว่า แต่ละปีมีการถ่ายภาพผ่าน iPhone ทุกรุ่นเป็นจำนวนถึง 10,000 ล้านภาพ ดังนั้น กล้องจึงถูกพัฒนามาต่อเนื่องเพื่อตอบสนองการใช้งาน อย่างเป็นที่ทราบกันดีในกลุ่มผู้ใช้
คุณต่อวงษ์ บอกว่า ตนใช้ iPhone X ที่มีคุณสมบัติพิเศษกับกล้อง True Depth เป็นจุดเด่น สามารถถ่ายภาพ Portrait หรือภาพถ่ายบุคคลหน้าชัดหลังเบลอได้สวย ตัวกล้องขนาด 12 ล้านพิกเซล เพียงพอต่อการถ่ายภาพและปริ๊นต์รูปภาพขนาดใหญ่ เลนส์มุมกว้าง 28 มม. รูรับแสงขนาด f/1.8 เทเลโฟโต้ 52 มม. รูรับแสงขนาด f/2.4 เป็นเลนส์ที่ช่างภาพทั่วไปนิยมใช้เพราะเก็บภาพได้ดี
สมัยก่อนภาพถ่าย Portrait จะถ่ายภาพบุคคลแนวตั้งครึ่งตัว แต่สมัยนี้สามารถถ่ายได้ทุกรูปแบบ สำหรับมือทั่วไปให้พยายามถ่ายกับแบล็กกราวด์ที่เรียบๆ สีพื้นๆ ระยะห่างแบล็กกราวด์สัก 2 ฟุต ภาพจะออกมาสวยงาม หากคิดอะไรไม่ออกให้ถ่ายพื้นหลังเป็นท้องฟ้า แต่อย่าให้พื้นหลังยุ่งเหยิง ภาพออกมาจะถูกดึงความน่าสนใจไป ขณะที่แสงและเงา จะสร้างความสมดุลของภาพได้ดีแล้วแต่สมูธและโทนขึ้นอยู่กับประสบการณ์ หากถ่ายในสภาวะแสงน้อย พยายามหาแสงจากขอบหน้าต่าง หรือป้ายไฟ หรือไม่ก็ไฟจากร้านค้า ให้ลองถ่ายดู ผลที่ออกมาจะมีความพอใจ
เคล็ดลับอีกข้อหนึ่งง่ายๆ หากจะถ่ายรูปกับตัวอาคาร ตึก ถ่ายสถาปัตยกรรมต่างๆ เพียงแค่ตั้งกล้องให้ตรงๆ อย่าแหงนหรือก้ม จะทำให้องค์ประกอบของภาพออกมาเป็นเส้นตรงให้ภาพออกมาดูเนี้ยบเหมือนมืออาชีพถ่าย แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไปให้ดูความเหมาะสม
สำหรับการใช้แอพพลิเคชั่นมาช่วยแต่งภาพ คุณต่อวงษ์บอกว่าใช้เพียงไม่กี่แอพ ที่นิยมกันก็คือแอพ VSCO, RNI, Snapseed และ Adobe Lightroom กับหลักการง่ายๆ คือให้เลือกฟิลเตอร์ เลือกเพียง 3-4 ฟิลเตอร์ก็พอตามความต้องการ จากนั้นมาปรับรายละเอียดความมืดความสว่าง ปรับ Shadows เพื่อปรับแสงในส่วนมืดให้สว่าง ปรับ Hilights เพื่อดึงแสงสว่างกลับคืนมา และปรับ Vignette เพื่อขอบของภาพให้ภาพมีความโดดเด่น
เพียงเท่านี้ก็ได้ภาพถ่ายบุคคลเหมือนมืออาชีพถ่ายแล้ว.

เทคโนโลยีเปลี่ยนสีเสื้อผ้า


                                                     
                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                           ใส่สีในปัจจุบันกลายเป็นเทคโนโลยีที่ทุกคนสามารถหาซื้อมาใช้งานได้ง่ายๆ มีให้เห็นกันเกลื่อนตลาดเลยทีเดียว
แต่เทคโนโลยีสวมใส่ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่เราสวมใส่กันนี้กำลังจะได้เห็นกันในอนาคตว่าเสื้อผ้าที่เราสวมใส่นั้นเราสามารถเปลี่ยนสีได้ทั้งๆที่เราสวมใส่อยู่ในร่างกายอยู่ ซึ่งนับว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในโลกดิจิทัลอย่างแท้จริง โดยทาง cnet.com รายงานว่า เสื้อผ้าอัจฉริยะ หรือ smart clothes จะเป็นเทคโนโลยีในยุคหน้า
ด้วยเนื้อผ้าอัจฉริยะคุณสามารถเปลี่ยนสีเองได้ไม่ว่าจะเป็นสีชมพู, ฟ้า หรือจะเป็นลายเส้นสีชมพู สีฟ้า ง่ายๆเพียงแค่กดปุ่มที่แอป-พลิเคชันบนสมาร์ทโฟนก็สามารถเปลี่ยนแปลงสีเสื้อผ้าได้อย่างง่ายๆ โดยนักวิจัยจาก College of Optics and Photonics จากมหาวิทยาลัย University of Central Florida (UCF) ได้ทำการวิจัยเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงสีของเนื้อผ้าที่พวกเขาเรียกว่า ChroMorphous
ทั้งนี้ เนื้อผ้าที่เปลี่ยนแปลงสีได้นี้จะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ถูกฝังอยู่กับสายไฟขนาดเล็กที่สามารถเปลี่ยนแปลงสีของเส้นใยแต่ละเส้น โดยขึ้นอยู่กับกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่าน เมื่อเปิดเครื่องเนื้อผ้าจะทำการเปลี่ยนแปลงสีได้เลย ซึ่งทาง UCF ได้ใช้เทคโนโลยีการทอผ้าด้วยการใช้เส้นใยขนาดเล็กและการ
เทคโนโลยีนี้นับว่ามีความแตกต่างจากเทคโนโลยีให้ความสว่างของเสื้อผ้าที่มีอยู่ แต่ความสว่างที่เกิดขึ้นจากเส้นใยผ้าแต่ละชิ้นถูกพันด้วยโลหะที่บางเฉียบ เนื่องจากปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านสายดังกล่าวทำให้อุณหภูมิของมันสูงขึ้นและลดลงเล็กน้อย ผงสีเฉพาะที่อยู่ภายในเส้นด้ายจะทำปฏิกิริยากับความแตกต่างของอุณหภูมิเหล่านี้และเปลี่ยนสี กระบวนการทั้งหมดถูกควบคุมโดยผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
ทาง UCF ได้มีวิดีโอเพื่ออธิบายการทำงานของการเปลี่ยนแปลงสีผ้า โดยเทคโนโลยีสามารถปรับขนาดได้ ดังนั้นจึงสามารถผลิตได้เป็นจำนวนมาก โดยใช้กระบวนการที่เรียกว่าเส้นใยปั่น ขณะนี้นักวิจัยดังกล่าวอยู่ระหว่างทำงานร่วมกับแฟชั่นดีไซเนอร์เพื่อสร้างสรรค์ชุดเปลี่ยนสี แต่เพื่อให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้นก็คือพวกเขาต้องการให้เนื้อผ้ามีความบางลง จากปัจจุบันที่ใช้วัสดุที่มีความรู้สึกว่ามีความหนาและหยาบและสามารถนำไปใช้กับเครื่องซักผ้าได้ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงจำนวนสีที่แตกต่างกัน
ซึ่งคงต้องรอดูว่าในอนาคตจะพัฒนาเนื้อผ้าออกมาให้ตรงกับความ ต้องการและเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร ที่แน่ๆไอเดียการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้รับความสนใจไม่น้อย
ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะพลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและวงการแฟชั่นเลยก็เป็นไปได้.
                                                                   

พัฒนาสร้างคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่สุดในโลก





การแข่งขันพัฒนาเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่เพียงแค่ประสิทธิภาพการทำงานสุดล้ำ แต่ยังแข่งกันที่ขนาดของนวัตกรรมใหม่ด้วย ล่าสุดไอบีเอ็ม ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้ประกาศว่า แชมป์ใหม่ที่สามารถสร้างคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่สุดในโลกได้กลายเป็นของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ในสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อย
คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กตัวนี้มีขนาด 0.3 มิลลิเมตร เทียบแล้วก็เล็กกว่าเมล็ดข้าว ประกอบด้วยแรม (RAM), โฟโตโวลตาอิกส์ (Photovoltaics) เป็นตัวแปลงพลังงานแสงเป็นพลังงานไฟฟ้า มีตัวเก็บประจุ (capacitors) และยังมีตัวประมวลผลพร้อมเครื่องส่งสัญญาณและรับสัญญาณแบบไร้สาย มีเซ็นเซอร์อุณหภูมิที่เที่ยงตรง ให้ความแม่นยำสูงในขณะที่ใช้พลังงานต่ำ ระบบถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นมาก เพื่อไปปรับใช้กับวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้ แต่ทีมวิจัยได้เน้นที่การวัดอุณหภูมิอย่างแม่นยำ เพื่อนำไปช่วยทางการแพทย์โดยเฉพาะการประเมินการรักษาโรคมะเร็ง เนื่องจากตัวเซ็นเซอร์อุณหภูมิจะตรวจสอบความแปรผันของอุณหภูมิภายในเนื้องอกกับเนื้อเยื่อปกติ จะทำให้กำหนดเป้าหมายในการรักษาได้
อย่างไรก็ตาม นักวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาสร้างคอมพิวเตอร์จิ๋วเผยว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าเป็นคอมพิวเตอร์ได้หรือไม่ เพราะคอมพิวเตอร์โดยปกติทั่วไปเมื่อดับเครื่องถอดปลั๊กโปรแกรมและข้อมูลจะยังคงอยู่ในนั้น เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ข้อมูลก็ไม่ได้หายไปไหน แต่สำหรับเจ้าคอมพิวเตอร์จิ๋วนี้เมื่อปิดเครื่อง ก็จะสูญเสียโปรแกรมและข้อมูลทั้งหมดจะหายไป ซึ่งยังต้องพัฒนาต่อให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น.